Creamy and Aromatic Basque Burnt Cheesecake

46 views

ชีสเค้กหน้าไหม้ หรือ burnt cheesecake กำลังกลับมาเป็นกระแส ชีสเค้กที่หน้าสีเข้ม กลิ่นหอมจัด เนื้อขนมครีมมีตงกลางเยิ้มฉ่ำ เป็นขนมที่ทำไม่ยาก

Creamy and Aromatic Basque Burnt Cheesecake 

Burnt cheesecake หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ชีสเค้กหน้าไหม้ กำลังจะกลับมาอยู่ในเทรนด์ครั้งหลังจากเคยไวรัลหนักทั่วโลกไปเมื่อ 6 ก่อนที่ฮิตแบบที่ว่าทุกร้านต้องวางขาย ทุกบ้านต้องเคยอบ ด้วยความที่เป็นขนมที่ทำไม่ยาก วัตถุดิบหาง่ายและอร่อยถูกปากด้วยรสชาติครีมมี นุ่ม และหอมจัด แต่หนึ่งอยากบอกว่า ประวัติความเป็นมาของขนมตัวนี้ก็น่าสนใจมากเช่นกันค่ะ 

หนึ่งรู้จักขนมตัวนี้เพราะอ่านบล็อกของคุณ OHHAPPYBEAR บล็อกเกอร์ที่ติดตามอยู่ เธอเขียนรีวิวขนมได้น่าสนใจมากจนต้องไปตามหาประวัติของขนมตัวนี้เพิ่ม Burnt cheesecake เป็นขนมที่เพิ่งถูกคิดค้นขึ้นมาช่วงปี ค.ศ 1990 ในร้านอาหารแนวปินโชบาร์ (Pintxo bar) ที่ชื่อ La Viña ในเมือง San Sebastian แคว้น Basque ประเทศสเปน โดยเชฟ Santiago Rivera ไปเยี่ยมเว็บไซต์ร้านได้ที่นี่ค่ะ https://lavinarestaurante.com/en/ ความพิเศษของชีสเค้กหน้าไหม้คือ ความเฉพาะตัวที่เหมือนตีลังกากลับหลังหันจากชีสเค้กคลาสสิคที่ทุกคนจดจำคือ ไม่มีฐานกรอบ (crust) หน้าขนมสีเข้ม กลิ่นหอมจัดในขณะที่เนื้อขนมนุ่ม ครีมมีและตรงกลางมีความไหลนิดๆ ขนมเสิร์ฟง่ายๆ ในท่านอนโดยไม่มีท้อปปิ้ง หลายคนที่เคยทำชีสเค้กแบบอบจะรู้ว่า กฎการอบคือ อบรองน้ำ ใ้ช้อุณหภูมิไม่สูงมากเพื่อให้ได้เนื้อขนมนุ่มและป้องกันหน้าขนมหน้าปริแตกหรือสีเข้ม แต่ด้วยลักษณะที่โดดเด่นนี้ทำให้ขนมตัวนี้ก็ไวรัลไปทั่วโลกถึงขนาด New York Time ประกาศให้เป็น “Flavor of the Year” ในปี 2021 ในชื่อ “Basque Burnt Cheesecake” ร้านนี้จึงกลายเป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยว นักชิมและเชฟจากทั่วโลก มีคนพยายามแกะสูตร ขอสูตร และมีเรื่องเล่าว่าครีมชีสที่ใช้ทำคือของ ยี่ห้อ Philadelphia จริงเท็จอย่างไรหนึ่งไม่ทราบ แต่ยี่ห้อครีมชีสและครีมมีผลทำให้รสชาติต่างกันแน่นอนค่ะ

หนึ่งอบไปหลายเวอร์ชันมากๆค่ะ อันนี้มีพลิกแพลงเล็กน้อย 

ร้านต้นฉบับจะเสิร์ฟแบบนี้นะคะ นอนบนจาน ชิ้นไม่ใหญ่มากและไม่มีท้อปปิ้งอะไร เน้นความเรียบง่าย


ความพิเศษของเค้าคือกลิ่นหอมไหม้ๆ ของซิสเค้ก ตัดเนื้อนุ่มๆ รสชาติริชๆ ของเค้านี่เองค่ะ อร่อยดักเพลินเกินห้ามใจมากๆ ถ้าหากอยากให้มีลูกเล่นเพิ่มเติมจะเสิร์ฟพร้อมซ้อสตอเบอร์รีก็ไม่ผิดนะคะ ชอบแบบไหนก็จัดได้เลย 

ปัจจุบันชีสเค้กหน้าไหม้มีหลายสูตรมาก แต่หากดูรายละเอียดสูตรขนมจะพบว่าไม่ต่างกันมาก มีส่วนผสมหลักแค่ครีมชีส ไข่ น้ำตาลและครีม สำหรับหนึ่ง ความยากของขนมตัวนี้คือ “การบาลานซ์รสชาติ” และ “การอบ” ให้ได้เนื้อขนมที่ต้องการ บางคนชอบเนื้อสุก เซ็ทตัวดี บางคนอยากให้ขนมยังมีความฉ่ำตรงกลางแบบในรูปซึ่งต้องเฝ้าเตากันนิดนึงเพราะเตาแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน

สูตรนี้หนึ่งปรับให้ได้แบบที่ชอบ ทุกคนจะเห็นว่าสูตรนี้หนักไข่และครีมชีสโดยมีวิปปิ้งครีมเล็กน้อยเท่านั้นเพราะส่วนตัวคิดว่าการมีวิปปิ้งครีมในสูตรปริมาณมากทำให้ขนมออกไปทางเลี่ยนมากกว่า แต่ข้อเสียของสูตรนี้คือต้นทุนสูง และหากใช้ไฟไม่ดีไข่จะเกาะกันเป็นก้อนทำให้เนื้อขนมไม่เนียน แต่ถ้าอบได้พอดีขนมจะอร่อยมากๆค่ะ 

Basque Burnt Cheesecake
 
ดัดแปลงจาก https://www.sansebastianturismoa.eus
สำหรับถาดขนาด สำหรับพิมพ์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 9 นิ้ว (3 ปอนด์) หากต้องการใช้พิมพ์ 2 ปอนด์ให้คูณ 0.7 

ครีมชีส*พักนอกตู้เย็นจนนิ่ม 1 กก
น้ำตาลทรายสำหรับเบเกอรี 300 กรัม (ใครชอบหวานน้อยลดน้ำตาลได้ถึง 260 กรัม)
ไข่ไก่เบอร์ 2 7 ฟอง
วิปปิ้งครีม 100 มล
วานิลลาบีนเพสท์ 1 ชช
แป้งข้าวโพด 30 กรัม (ไม่ใส่ก็ได้)

*ครีมชีสคืออะไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

วิธีทำ

  1. กรุกระดาษพาร์ชเม้นท์ที่พิมพ์โดยให้ขอบกระดาษสูงขึ้นมาจากขอบประมาณ 2 นิ้ว สำคัญมากนะคะ เพราะระหว่างอบขนมอาจจะฟูสูงกว่าขอบพิมพ์และอาจล้นได้ แต่อย่าสูงมากเพราะกระดาษจะบังความร้อนทำให้หน้าขนมไหม้ช้าลงและไม่สม่ำเสมอ วอร์มเตา 220-230 C ไฟบน ล่าง
  2. ตีครีมชีสโดยหัวตีใบพพายด้วยความเร็วต่ำ พอเนื้อเริ่มเนียนค่อยๆทยอยใส่น้ำตาลลงไปเรื่อยๆจนน้ำตาลหมด ตีต่อจนส่วนผสมเนียน 
  3. ค่อยๆทยอยผสมไข่ครั้งละ 1 ฟอง จนหมด ตามด้วยวานิลลาบีนเพสท์ ตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน ระหว่างนี้ปาดอ่างด้วย
  4. ใส่ครีมลงไป ตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน
  5. ใส่แป้งข้าวโพด ตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน 
  6. เทใส่พิมพ์ (ถ้าอยากให้เนื้อเนียน ใช้กระชอนกรอง) ส่งเข้าเตาอบ อบนาน 40 นาที โดยอบไฟล่างอย่างเดียว 20 นาทีแรก จากนั้นปรับเป็นไฟบน ล่าง อบต่อ 20 นาที
  7. เมื่อครบเวลาเช็คขนม ตรงกลางขนมควรยังกระเพื่อมนิดๆ นำขนมออกจากเตา พักในพิมพ์จนเย็น นำออกจากพิมพ์ แต่อย่าเพิ่งตัดนะคะ พัก 1 คืน แช่เย็นก่อนตัด

Tips

  1. ถ้าอยากให้ขอบขนมมีไหม้ๆด้วย ใช้พิมพ์สีเข้ม
  2. เวลา ละเทคนิคในการอบแล้วแต่เตานะคะ 
  3. ใครลดสูตร ปรับเวลาในการอบด้วยค่ะ เพราะขนมจะสุกเร็วกว่า


เสร็จแล้วค่า พร้อมเสิร์ฟได้แล้ว

ความพิเศษของเค้าคือกลิ่นหอมไหม้ๆ ของชีสเค้ก ตัดเนื้อนุ่มๆ รสชาติริชๆ ของเค้านี่เองค่ะ อร่อยตักเพลินเกินห้ามใจมากๆ 

ลองไปอบกันดูนะค้า

Happy Baking ค่า

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม share ด้านข้างหรือด้านล่างเพื่อ redirect มาที่บล็อกนี้***

Tags:

No responses yet

Leave a Reply

Get Update From Us

Latest Blogs

Shiopan Recipe: Recipe #3 (Poolish & Tangzhong Shiopan)

ชิโอะปังรสชาติคลีนๆ แต่มีเสน่ห์ กินได้ทุกวันไม่เบื่อ เปลือกกรอบ เนื้อขนมนุ่มเหนียวแบบมีคาแรคเตอร์ด้วยการใช้ผสมผสานสองเทคนิคเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพขนม

ทำไมทำแป้งชูต้องผสมแป้งกับน้ำร้อนและผัดแป้ง

การเตรียมแป้งชูทำไมต้องผสมแป้งกับนมหรือน้ำร้อนและทำไมต้องผัดแป้งหลังจากนั้น การใช้น้ำหรือนมให้ผลต่างกันยังไง ทำไมต้องเติมไข่ในส่วนผสม เติมไข่น้อยกว่าสูตรหรือมากกว่าสูตรจะเกิดปัญหาอะไร ผงฟูจำเป็นไหม มีคำตอบให้ในบล็อกนี้

All You Need to Know about Custard Cream & Pastry Cream

มาทำความรู้จักกับคัสตาร์ดครีม หรือเพสทรีครีม ไส้ขนมยอดนิยมของชูครีมหรือครีมพัฟ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค ข้อควรระวัง และปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นพร้อมวิธีแก้ไข

No Sugar Added Banana Nutella Cake

เค้กกล้วยหอมนูเทลลาแบบไม่มีน้ำตาลในสูตรแต่ยังได้เค้กเนื้อนุ่มเบา รสหวานกลมกล่อม เอาใจคนรักสุขภาพที่ไม่อยากกินหวานจัดหรือขนมไขมันสูง

Shiopan Recipe: Recipe #2 (Poolish Shiopan)

สูตรนี้เนื้อหนา เหนียวนุ่ม เปลือกบางกรอบ ไม่ลีนมาก ที่สำคัญจัดการง่ายขึ้น ได้ขนมปังคุณภาพดี กลิ่นหอมและรสชาติลึกกว่า และได้อบชิโอะปังทานช่วงเช้า สูตรนี้อร่อยมากๆ

Types of Choux Pastry Filling

แม้ว่าไส้คัสตาร์ดวานิลลาจะเป็นไส้ขนมยอดนิยมที่เราคุ้นเคยกันดีของชูครีมหร่อครีมพัฟ แต่ทราบไหมคะว่ามีไส้อีกหลายชนิดที่สามารถแต่งรสชาติขนมตัวนี้ได้หลากหลายและอร่อยได้

error: