Bread Basics: Introduction to Yeast in Baking

มาทำความรู้จักกับ ยีสต์ วัตถุดิบสำคัญในการทำขนมปังว่าคืออะไร มีความเป็นมาอย่างไรและมีกี่ชนิด

ยีสต์ คืออะไร

ทุกคนอาจคุ้นเคยกับยีสต์แห้งทรงกระบอกขนาดเล็ก มีกลิ่นเฉพาะที่เราใช้ทำขนมปัง แต่รู้ไหมคะว่าแท้จริงแล้วยีสต์เป็นสิ่งมีชีวิต

ยีสต์เป็นเชื้อจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเห็ดรา  กลุ่มเดียวกับรา เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว มีรูปร่างกลมรีหรือวงรี มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่สามารถขยายพันธุ์และเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

ยีสต์มีหลากชนิด หลายสายพันธุ์ มีทั้งที่ก่อให้เกิดโรคและอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ที่เราเรียกว่า เชื้อโรค และชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดโรคแถมยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์มากมายในการทำอาหารและเครื่องดื่ม

ยีสต์ในขนมปังและขนมอบ

มนุษย์ใช้การหมักในการทำขนมปังตั้งแต่ยุคโบราณราว 4,000 ปีก่อน โดยชาวอียิปต์โบราณสังเกตว่า เมื่อผสมแป้งและน้ำจนเป็นก้อนโดแล้วพักไว้นาน โดขยายตัวใหญ่ขึ้น ตอนนั้นชาวอียิปต์ยังไม่รู้จักคำว่า “ยีสต์” แต่เก็บแป้งโดจากครั้งก่อนมาใช้เป็น หัวเชื้อ ที่คนยุคปัจจุบันเรียกว่า sourdough starter นั่นเอง หลังจากนั้นการใช้หัวเชื้อในการทำขนมปังกลายเป็นองค์ความรู้ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

ศตวรรษที่ 9 มีการใช้คำว่า yeast เรียกฟองอากาศที่เกิดจากการหมัก yeast มาจากภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่าฟองอากาศ การหมัก ต่อมา Louis Pasteur พิสูจน์ได้ว่าการหมักเกิดจากสิ่งมีชีวิต

ศตวรรษที่ 19 มีการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ยีสต์สายพันธุ์ต่างๆ มีการค้นพบยีสต์สายพันธุ์ต่างๆ ทั้งที่เกิดการหมักและไม่เกิดการหมัด มีการเพาะเลี้ยงคัดเลือกสารพันธุ์ยีสต์

กลางศตวรรษที่ 19 มีการผลิต ยีสต์สดก้อน (compressed yeast) ออกมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในออสเตรเลียและเยอรมันเพื่อใช้แทน sourdough starter ถือเป็นการเปิดประตูเข้าสู่ยุคอุตสหกรรมขนมปัง

ศตวรรษที่ 20 มีการพัฒนายีสต์แห้ง ทั้ง active dry yeast และ instant dry yeast ซึ่งสะดวก หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ทำให้การทำขนมปังในทั้งในระดับอุตสาหกรรมและระดับครัวเรือนง่ายขึ้น ยีสต์เหล่านี้คือ commercial yeast นั่นเอง

ยีสต์ธรรมชาติ (natural yeast) & ยีสต์เชิงพาณิชย์ (commercial yeast)

ยีสต์ธรรมชาติ (natural yeast) คือยีสต์ที่ต้องเพาะเลี้ยงเอง แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ yeast water และ sourdough ซึ่งหลักๆ ต่างกันที่ host หรือ reservoir หรือ บ้านที่มันใช้อาศัย และต้องมีแหล่งอาหาร (น้ำตาล) และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม (อุณหภูมิ ความเป็นกรดด่าง ความชื้น) ยีสต์ธรรมชาติถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ Yeast water มีบ้านเป็นน้ำโดยมีแหล่งอาหารจากผลไม้ทั้งสดและแห้ง ดอกไม้ น้ำผึ้ง ในขณะที่ SD มีโด (ซึ่งประกออบไปด้วยน้ำ+แป้ง) เป็นบ้านโดยมีแหล่งอาหารมาจากแป้ง

ยีสต์ธรรมชาติ แม้ชื่อจะมีแค่คำว่า ยีสต์ แต่ในความเป็นจริงมันมีแบคทีเรีย กลุ่ม Lactic Acid Bacteria (LAB)  อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนเล็กๆ ในบ้านหลังเดียวกัน

ทำไมมีแบคทีเรียในยีสต์ธรรมชาติ มันมีของมันตั้งแต่แรก  ยีสต์และแบคทีเรียเป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กๆ ที่มีในสิ่งแวดล้อม เกาะตามที่ต่างๆ ครัว เขียง แป้ง น้ำ ผิวหนังเรา แต่จุลินทรีย์เหล่านี้จะอยู่หนาแน่นตามแหล่งอาหารที่มันชอบ เช่น ยีสต์และแบคทีเรียที่เกิดการหมักได้จะชอบอยู่ที่แป้ง ผลไม้รสหวาน ดังนั้น เวลาเราเพาะยีสต์เอง เราจะได้จุลินทรีย์หลากหลายชนิดมาทั้งหมด แต่มันจะเหลือรอดเป็น #ยีสต์ธรรมชาติ ให้เราใช้จากการคัดจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการออกไป โดยปัจจัยที่ช่วยคัดเลือกยีสต์ธรรมชาติ เช่น อาหารที่ใช้ฟี้ด  อุณหภูมิและความชื้น)

การเพาะยีสต์ธรรมชาติเอง เป็นการเลี้ยงแบบ blind คือ ในทางปฏิบัติ เราไม่รู้ว่าใน starter มีเชื้อจุลินทรีย์ตัวไหน ปริมาณเท่าไหร่ แต่สามารถดูจากกิจกรรมของมันผ่าน การขยายตัวเป็นสองเท่าถึงสามเท่า กลิ่น รส และความหนียวและยืดหยุ่นของโด จึงเป็นความยากและท้าทายมาก

ตัวอย่างยีสต์สายพันธุ์ที่เกิดการหมักที่พบในยีสต์ธรรมชาติ เช่น Saccharomyces exiguus, Candida humilis, Kazachstania unispora เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียกลุ่ม Lactic Acid Bacteria (LAB) อีกหลายสายพันธุ์ รายละเอียดของยีสตธรรมชาติมีมากมาย แต่บล็อกนี้ขอลงรายละเอียดเฉพาะยีสต์เชิงพานิชย์เท่านั้น

ยีสต์เชิงพานิชย์ Commercial yeast

ปัจจุบันยีสต์ที่ใช้ทำขนมปังทั้งในระดับครัวเรือนและระดับอุตสหากรรมส่วนใหญ่คือ ยีสต์เชิงพาณิชย์ (commercial yeast หรือ baker’s yeast) ซึ่งคือสายพันธุ์ Saccharomyces cerevisae สายพันธุ์เดียว เป็นยีสต์มาตรฐานที่เพาะเลี้ยงและปรับปรุงสายพันธุ์ในห้องแลบ

ทำไมต้อง Saccharomyces cerevisae

ยีสต์ที่เกิดการหมักได้มีหลายสายพันธุ์แต่การเลือกสายพันธุ์นี้เพื่องใช้งานเชิงพาณิชย์ เพราะ

  1. เกิดการหมักได้ดีเยี่ยม สร้างก๊าซ CO2 และแอลกอฮอล์ได้เร็วและสม่ำเสมอ 
  2. ใช้งานได้หลากหลายทั้งในอาหาร ขนมอบ และเครื่องดื่ม และยังให้กลิ่นและรสชาติที่หลากหลาย ซึ่งเป็นผลมาจากสารอนินทรีย์จากการหมัก
  3. ไม่สร้างสารข้างเคียงที่มีกลิ่นรสไม่พึงประสงค์
  4. ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
  5. สามารถปรับปรุงพันธุ์ได้หลากหลาย เช่น ให้ทนเกลือ ทนน้ำตาลสูง หรือทนอุณหภูมิ เป็นต้น
  6. เป็นต้นแบบในการศึกษาวิจัย Saccharomyces cerevisae เป็นยีสต์ที่ถูกนำมาศึกษาวิจัยมากที่สุด มีการพัฒนา ปรับปรุงเพื่อใช้งานที่หลากหลายนอกเหนือจากอาหารและเครื่องดื่ม

การเกิดขึ้นของยีสต์เชิงพานิชย์พลิกโฉมหน้าการทำขนมปังระดับอุตสาหกรรมและครัวเรือนครั้งใหญ่ เพราะการใช้ยีสต์ธรรมชาติเกิดปัญหามากมาย ทั้งระยะเวลาการผลิตที่ยาวนาน ความไม่แน่นอนและคาดการณ์ยากของยีสต์ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการควบคุมมาตรฐานของขนมปังรวมทั้งต้นทุนที่สูงกว่า ยีสต์ Saccharomyces cerevisae เป็นยีสต์ที่มนุษย์รู้จักและคุ้นเคยที่สุด รู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดีทำให้ บวกกับการมียีสต์สายพันธุ์เดียวทำให้ง่ายในการทำงาน ควบคุมและคาดการณ์ได้ ให้ผลลัพธ์ที่ความสม่ำเสมอ (Consistency) ขนมปังทุกล็อตผลิตภัณฑ์ให้ผลการหมักใกล้เคียงกัน ได้ขนมปังที่มีมาตรฐานเดียวกัน ไม่เปลี่ยนรสหรือปริมาณ นอกจากนี้ยังหาซื้อง่ายและราคาไม่แพงซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่การผลิตระดับอุตสาหกรรมต้องการ

ยีสต์เชิงพานิชย์แบ่งย่อยออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ ยีสต์สดและยีสต์แห้ง โดยยีสต์แห้งแบ่งย่อยเป็น active dry yeast และ interstant dry yeast ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในบทถัดไป

ภาพรวมกว้างๆ ของยีสต์ในขนมปัง

  • ยีสต์ธรรมชาติ (natural yeast) ได้แก่ yeast water และ SD starter
  • ยีสต์เชิงพาณิชย์ (commercial yeast) ได้แก่ ยีสต์สด (fresh yeast/compressed yeast) และยีสต์แห้ง (active dry yeast และ instant dry yeast)

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม share ด้านข้างหรือด้านล่างเพื่อ redirect มาที่บล็อกนี้***

Tags:

No responses yet

Leave a Reply

Get Update From Us

Latest Blogs

Recipe: Earl Grey Caramelized Top Cream Puff

ครีมพัฟท้อปด้วยคาราเมลเอิรลเกรย์ที่ทั้งกรอบและหอม สอดไส้ด้วยครีมเอิร์ลเกรย์หอมละมุน อีกหนึ่งรสชาติที่อร่อยลงตัว

Shiopan Recipe: Recipe #4 Truffle Shiopan (Sponge Technique)

ชิโอะปังสูตรนี้มีความเฉพาะตัวมากคือ โดไม่แฉะ รีดขึ้นรูปง่าย เนื้อขนมนุ่มแต่เปลือกบางกรอบมากเป็นพิเศษ และมีกลิ่นหอมเฉพาะจากวัตถุดิบที่ใช้ เป็นอีกหนึ่งสูตรที่อร่อยและมีคาแรคเตอร์ชัด

สปันจ์ (Sponge) ในขนมปังคืออะไร

สปันจ์เป็นหนึ่งในเทคนิค “หมักล่วงหน้า” หรือ preferment แต่มีลักษณะแตกต่างจากพรีเฟอร์เมนท์ตัวอื่นอย่างไร ชิโอะปังที่ใช้เทคนิคนี้จะมีลักษณะพิเศษหรือแตกต่างอย่างไร

Vegan Banana Muffin – มัฟฟินกล้วยหอม (เจ)

มัฟฟินสูตรเจ หวานน้อย อร่อยแบบคลีนๆ ไม่มีส่วนผสมของไข่ เนย นม ทำง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องตี อิ่มอยู่ท้องตามแบบฉบับมัฟฟิน

Matcha White Chocolate Brownie

เป็นบราวนีมัทฉะที่จริงใจ บราวนีเนื้อฟัดจ์ เคี้ยวหนึบหนับ หอมมัทฉะ รสชาติกลมกล่อมไม่หวานจัด ที่สำคัญทำง่ายมาก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ

Banana Chocolate Bread

Banana bread เนื้อนุ่มหอมฉ่ำแทรกด้วยช็อกโกแลตที่ช่วยเพิ่มมิติรสชาติและตัดรสหวาน เป็นขนมที่ทำง่ายมาก อิ่มอร่อย อยู่ท้อง เหมาะทานเป็นอาหารเช้าหรือของว่างยามหิว

error: