Coffee Banoffee Pie -When East meets West
Coffee Banoffee Pie บานอฟฟีโอเลี้ยง - When East meets West
Banoffee มา(อีก)แล้วค่าาา หลังจากทำ Banoffee Cake ไปแล้วซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นสูตรที่ชอบกินมากๆๆถึงมากที่สุด แต่สูตรนี้ก็เก๋ไก๋นะ แรงบันดาลใจจากการไปทานอาหารร้าน ไOSHA มา เป็ชอบไอเดียการนำเสนออาหารและขนมเค้ามากๆ วันนั้นตบท้ายอาหารด้วยเมนูขนมหวาน "บานอฟฟีโอเลี้ยง" เพราะดูน่าสนใจ พอได้ชิมอื้มมันอร่อยนะ ใช้กล้อยน้ำว้าเชื่อมแทนกล้วยหอม รสนัวๆ ไม่หวานจัด ชอบๆๆ เลยลองกลับมาทำกินเองที่บ้าน แต่หนึ่งปรับให้รสมันเข้มขึ้นมาอีกนิดตามความชอบส่วนตัว ได้ บานอฟฟีโอเลี้ยง หรือ coffee banoffee แบบนี้เลย น่ากินไหมคะ มีทั้งเวอร์ชันกินคู่กับทองม้วน และเวออร์ชันปาท่องโก๋พัฟ อร่อยเก๋ไก๋ทั้งคู่เลย
สำหรับสูตรไม่มีอะไรใหม่ หนึ่งหยิบสูตรเก่าๆมาปรับนู่นนิด นี่หน่อยและรวมร่างกันใหม่ ใช้ฐานเป็นบราวนีรสเข้มๆ ใช้กล้วยน้ำว้าเชื่อมแทนกล้วยหอม ทำคาราเมลรสกาแฟ ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมผสมมาสโคโปนชีส ชิมแล้วอื้ม อร่อยเลยนะ แต่คนละอารมณ์กับ Banoffee Cake ที่เคยลงไป รสจะนัวๆรวมกันไปหมด ฐานหนุบหนับ กล้วยเชื่อมก็หนุบหนับ กินคาราเมลกาแฟและครีม คือสรุปว่าอร่อยค่ะ การใช้กล้วยน้ำว้าเชื่อมทำให้ไม่มีกลิ่นกล้วยหอม หลายคนอาจจะรู้สึกว่า มันจะใช่บานอฟฟีเหรอตะเอง หนึ่งว่าต้องลองดูค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับรสกาแฟเพราะไม่มีกลิ่นกล้วยหอมมาแย่งซีนกลิ่นกาแฟ แต่ถ้าใครรู้สึกว่าหากล้วยเชื่อมลำบาก จะใช้กล้วยหอมเหมือนเดินก็ไม่มีปัญหาค่ะ หนึ่งทำสองแบบในรอบเดียวกันนะคะ คือใส่ถ้วย และแบบถาด มาดูเวอร์ชันถาด กินคู่กับทองม้วนค่ะ
มาดูสูตรกันดีกว่า หนึ่งไม่ได้รีวิววิธีทำละเอียดในบล็อกเอ็นทรีนี้นะคะ เพราะเคยรีวิวมาแล้ว อยากดูรีวิวิธีทำแต่ละขั้นตอนคลิ้กลิงค์ของแต่ละสูตรได้เลยค่ะ ขนมประกอบด้วย
1. ฐาน-dark chocolate brownie (อยากเปลี่ยนเป็นแครกเกอร์ก็ได้ตามชอบเลยค่ะ)
2. กล้วยน้ำว้าเชื่อม (หนึ่งใช้ไปทั้งหมดประมาณ 8 ลูก) จะใช้กล้วยหอมแทนก็ได้
3. coffee mascapone caramel
4. Sublime cream (whipping cream + mascapone cheese) หรือใช้วิปปิ้งครีมอย่างเดียวก็ได้
5. ปาท่องโก๋พัฟ
Dark chocolate brownies
หนึ่งใช้พิมพ์ 3 ปอนด์อบ วิธีทำอย่างละเอียด คลิ้กที่นี่
*เนยจืด 114 กรัม
*dark chocolate 114 กรัม (chocolate solid 60-70%)
*ผงโกโก้ 20 กรัม
*ไข่(เบอร์ 2) 2 ฟอง
*น้ำตาล 180 กรัม
*แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
*วานิลา 1/2 ฝักหรือ vanilla extract 1 ชช
*เกลือ 2 หยิบมือ
วิธีทำ
1.อุ่นเตาที่ 175 องศา กรุฐานพิมพ์เค้กด้วยกระดาษรองอบ หนึ่งใช้พิมพ์เค้กสามปอนด์ อบออกมาได้ความสูงกำลังดีตามรูปเลยค่ะ
2.เนยและช็อคโกแลตสับเป็นชิ้นหยาบๆ ใส่อ่างผสมสเตนเลส ละลายด้วยวิธี double boiling ต้มนำพอประมาณจนเกิดไอ นำอ่างผสมที่มีเนยและช็อกโกแลตไปวางบนปากหม้อ คนจนส่วนผสมละลายเข้ากัน ยกออกมาพักไว้
3. ร่อนแป้งและผงโกโก้ พักไว้
4.ไข่+ วานิลา+ น้ำตาล ในอีกอ่างผสม ตีด้วยเครื่องตีจนเป็นครีมข้น สีจาง เทส่วนผสมของแป้งและเกลือลงไป ตะล่อมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ตามด้วยส่วนผสมของชอกโกแลตที่ละลายไว้ ผสมให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ อบ 15 นาทีไฟ บน-ล่าง พอครบเวลานำเอาออกมาพักไว้จนขนมคลายความร้อน นำบราวนีออกจากพิมพ์ แกะกระดาษรองอบออก พักต่อจนขนมเย็นสนิท
coffee mascapone caramel
ดัดแปลงจากสูตรของ Christophe Adam ดูรีวิวละเอียดคลิ้กที่นี่
* เจลาตินผง 4 กรัมและน้ำเย็น 1 ช้อนโต๊ะสำหรับบลูมเจลาติน
* น้ำตาลทรายขาวสำหรับทำเบเกอรี 180 กรัม
* ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนชา (ปรับเพิ่มตามความชอบ)
* น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
* วิปปิ้งครีมแท้ 230 กรัม
* เนยจืด 112 กรัม
* mascarpone cheese 350 กรัม
* เกลือ 1 หยิบมือ
วิธีทำ
1. บลูมเจลาตินในน้ำเย็น พักไว้ ระหว่างนี้ไมโครเวฟวิปปิ้งครีมให้ร้อนจัดแล้วใส่ผงกาแฟลงไป คนจนกาแฟละลาย พักไว้
2. คาราเมลรสกาแฟ น้ำตาลทรายขาว + น้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟ หนึ่งใช้ไฟแรงแต่จับตามองคาราเมลให้ดี ต้องให้น้ำตาลไหม้เป็นสีเข้มจัดๆ (195-200 C) คาราเมลที่ออกมาจะหอมๆ ถ้าแค่สีอำพันพอเจอครีมและชีสเข้าไปรสจะอ่อนจนแทบไม่รู้ว่าคือคาราเมล เมื่อคาราเมลสีเข้มจัดแล้วปิดไฟ ใส่ครีมกาแฟลงไป ตอนนี้จะเกิดฟองฟู่ ค่อนข้างน่ากลัว ไม่ต้องตกใจนะคะ ยกหม้อลงจากเตาแล้วใช้ช้อนไม้คนจนส่วนผสมเข้ากันดี คนต่อไปเรื่อยๆจนอุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 60 C ใส่เจลาตินลงไปแล้วคนจนเจลาตินละลายและส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นใส่เนยลงไป คนต่อจนเนยละลายและคาราเมลคลายความร้อนลง คนต่อจนความร้อนลดลงเหลือ 40 C (ใช้นิ้วแตะๆครีม มันจะร้อนแต่ทนได้) เทคาราเมลลงไปใน mascarpone ใช้ตะกร้อมือตีผสมผสมจนเข้ากัน คาราเมลจะเย็นตัวลงและสามารถนำไปใช้ได้เลย
Topping cream
* Cream with mascarpone (หนึ่งใช้ของ Sublime Elle&Vire) 400 มล
* น้ำตาลทรายขาวสำหรับเบเกอรี 3-4 ช้อนโต๊ะ
ถ้าหา cream with mascarpone ไม่ได้ใช้วิปปิ้งครีมอย่างเดียวในปริมาณเท่ากันหรือจะใช้ วิปปิ้งครีม 200 กรัมตีจนตั้งยอดแข็งแล้วไปผสมกับ mascarpone 180 กรัม
วิธีทำ ตีครีมด้วยเครื่องตีไฟฟ้าจนตั้งยอดเฟิร์ม แล้วนำไปตกแต่งหน้าขนม
การประกอบร่าง
1. เตรียมพิมพ์แบบถอดก้นได้ขนาด 3 ปอนด์ วางบราวนีที่ฐาน (หนึ่งใช้พิมพ์ 2 ปอนด์โดยเอาบราวนีที่เกินไปใส่ถ้วยค่ะ)
2. หั่นกล้วยเชื่อมเป็นชิ้นแบบในรูปแล้วนำวางเรียงบนหน้าเค้ก ตามด้วยคาราเมลครีมให้ท่วมกล้วย นำไปแช่ตู้เย็นจนขนมเซ็ทตัวอย่างน้อย 2 ชม
3. ตีครีมแล้วนำมาตกแต่งตามชอบ
ปาท่องโก๋พัฟ หนึ่งใช้แป้งพัฟสำเร็จรูป มารีดให้บางประมาณ 0.5 cm แล้วตัด กว้างประมาณ 1 cm ยาว 3 cm แล้วจับคู่เหมือนปาท่องโก๋ อบ 200 F ไฟบนล่างจนขนมพอง สีสวยประมาณ 15 นาที (แล้วแต่เตา)
เสร็จแล้วๆๆ เสริ์ฟได้ค่า มีสองเวอร์ชันเลย ชอบแบบไหนเลือกเลยนะคะ ^_^ ส่วนตัวหนึ่งว่าแบบใส่แก้วมันให้อารมณ์กินโอเลี้ยงมากกว่า อิอิ ต้องใช้ช้อนที่ยาวหน่อยจ้วงแบบลึกๆให้กินได้พร้อมกันทุกชั้นมันจะฟินมากค่า ถ้ารู้สึกหวานไปก็แกะปาท่องโก๋กินเก๋ๆ ส่วนตัวหนึ่งว่ากินด้วยกันแล้วอร่อย แต่เพื่อนอีกคนบอกไม่ต้องกินกับอะไรเลยอร่อยที่สุด ไม่หวานมาก ก็แล้วแต่คนชอบเนอะ มา..อ้ำๆกัน
เป็นอีก 1 สูตรที่ชอบค่ะ ส่วนตัวไม่ดื่มกาแฟ แต่ถ้ามันแปลงเป็นอย่างอื่นไช่เค้ก ไอศครีม บลาๆ กินหมด ^_^ สำหรับ Coffee Banoffee นี่อร่อยนะคะ ลองทำดูว่าชอบเหมือนกันไหม
Happy Baking ค่า ^_^
***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม share ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***