Share

Chocolate Caramel Custard Cake

Last updated: 27 Apr 2025
1721 Views

Chocolate Caramel Custard Cake : หอม หวาน อร่อย เข้มข้น

คาราเมลคัสตาร์ดเป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและไม่เคยตกยุค เพราะทำไม่ยาก ส่วนผสมหาง่าย ที่สำคัญอร่อยมาก เป็นขนมหวานที่เรียกได้ว่า simply delicious และเป็นขนมหวานประจำบ้านที่อาจจะไม่ได้ดูหวือหวาแต่กินได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ บล็อกนี้จับคู่คาราเมลคัสตาร์ดกับเค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มหนึบและรสชาติเข้มข้น ส่วนตัวหนึ่งชอบช็อกโกแลตและคาราเมลอยู่แล้วเพราะทั้งหอมและเข้มข้นได้เนื้อคัสตาร์ดนุ่มเบาหอมๆ มาช่วยตัดรสขม อร่อยลงตัวมากค่ะ สูตรนี้คัสตาร์ดหนาเป็นพิเศษอาใจคนที่ชอบกินชั้นคัสตาร์ดหนาๆ เหมือนหนึ่ง อิอิ 

 

 

ช็อกโกแลตเค้กสูตรนี้จะพิเศษตรงที่ใช้ทั้งดาร์คช็อกโกแลตและผงโกโก้ทำให้มีเนื้อขนมมีความอยู่ตรงกลางระหว่างเค้กและบราวนีคิอ นุ่มหนึบเบาๆ และฉ่ำ รสชาติละมุนและมีกลิ่นหอมกินกับคัสตาร์ดและคาราเมลแล้วอร่อยค่า ในรูปเสิร์ฟพร้อมส้มโชกุนรสเปรี้ยมอมหวาน เข้ากันมักๆ อร่อย เข้มข้น สดชื่นนนน

 

 

 




มาดูสูตรกันค่า

Chocolate Caramel Custard Cake

สูตรสำหรับพิมพ์เค้กวงกลม 2 ปอนด์

a) คาราเมล

* น้ำตาลทรายขาว 60 กรัม
* น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ: น้ำตาล + น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟปานกลาง ใช้ช้อนคนจนน้ำตาลละลาย รอจนน้ำตาลเป็นสีคาราเมลหรือเหลืองอำพัน (แล้วแต่ความชอบนะคะ ใครชอบสีอ่อน สีเข้มเลือกได้ แต่ถ้าสีเข้มมากๆ คาราเมลจะขม) หนึ่งรอจนสีอำพันเข้มนิดๆ เมื่อคาราเมลสีเข้มเติมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะเพื่อละลายคาราเมลแล้วเทลงในพิมพ์ ใช้มือเอียงพิมพ์ให้คาราเมลเคลือบพิมพ์ให้ทั่ว

b) คัสตาร์ด

* นม (full fat) 400 มล
* วิปปิ้งครีมแท้ 150 มล
* น้ำตาลทรายขาว 110 กรัม
* ไข่ทั้งฟอง 3 ฟอง 
* ไข่แดง 2 ฟอง
* เกลือ 1 หยิบมือ
(ใช้ไข่เบอร์ 2)


วิธีทำ
1. ไมโครเวฟ (หรือตั้งไฟ) นม + วิปปิ้งครีม จนร้อนจัด
2. น้ำตาล + ไข่ + เกลือ ในอ่างผสม ตีด้วยตะกร้อมือจนน้ำตาลไม่เป็นเม็ดและส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ค่อยๆเทนมลงไปในส่วนผสมไข่ในขณะที่อีกมือยังผสมส่วนผสมอยู่ ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน กรองผ่านกระชอน พักไว้

C) Chocolate Cake

* ดาร์คช็อกโกแลต (64-70%) 62 กรัม
* เนย 40 กรัม
* ไข่ 2 ฟอง แยกไข่แดง ไข่ขาว
* น้ำตาล 60 กรัม
* เกลือ 1 หยิบมือ
* แป้งอเนกประสงค์ 30 กรัม
* โกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.ละลายเนยในไมโครเวฟแล้วนำมาเทในอ่างช็อกโกแลต คนจนช็อกโกแลตละลายใส่ไข่แดงลงไปครั้งละฟอง ใช้ตะกร้อมือตีส่วนผสมจนเข้ากัน ร่อนแป้ง + ผงโกโก้ + เกลือ ลงไป ผสมจนส่วนผสมเข้ากัน (ส่วนผสมจะเป็นก้อนๆ หน่อยไม่ต้องตกใจ)
2. วอร์มเตา 170 c ไฟล่าง ตีไข่ขาวจนขึ้นฟองหยาบ ทยอยใส่น้ำน้ำลงไปแล้วตีจนเมอแรงก์ตั้งยอดเฟิร์ม
3. แบ่งเมอแรงประมาณ มาผสมกับส่วนผสมข้อ 1 สามครั้ง ครั้งแรกจะผสมกันยากหน่อย ใช้ตะกร้อมือผสมแรงๆให้เข้ากัน ครั้งที่สองและสาม ตะล่อมเบามือจนส่วนผสมเข้ากัน

เทส่วนผสมลงพิมพ์ โดนเทคัสตาร์ดก่อน เวลาเทค่อยๆเท จะได้ไม่มีฟองอากาศในคัสตาร์ด กระแทกพิมพ์เบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศแล้วตามด้วยส่วนผสมเค้กจะหนืดๆพยายามเทให้ทั่วพิมพ์แล้วใช้ spatula เกลี่ยให้เนื้อเค้กเท่ากัน นำเข้าเตาอบที่วอร์มแล้ว อบแบบ รองน้ำ หนึ่งอบที่ 170 C 1 ชม 20 นาที เช็คสุกด้วยการใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเค้กแล้วแห้งดี นำขนมออกจากเตา พักจนเย็นแล้วนำขนมออกจากพิมพ์

 

 

 

 

Tips

1. สามารถทำคาราเมลในพิมพ์ที่จะอบขนมได้เลย ไม่ต้องต้มในหม้อแยก แต่หนึ่งถนัดต้มในหม้อแยกมากกว่า

2. ไม่จำเป็นต้องเคลือบคาราเมลให้ทั่วพิมพ์ที่เตรียมก็ได้ แต่ถ้าคาราเมลเคลือบทั่วพิมพ์สีของหน้าขนมจะสม่ำเสมอดูสวยงามกว่า ถ้าคาราเมลเซ็ทตัวแห้งก่อนที่จะเคลือบพิมพ์โดยทั่ว นำพิมพ์ไปอังไฟอ่อนๆ แล้วเอียงให้คาราเมลเคลือบให้ทั่ว (ดูในคลิป)

3. ฟองอากาศค้างในคาราเมลที่เซ็ทตัวแล้วถ้าฟองใหญ่อาจจะทำให้หน้าขนมมีรอยฟองอากาศ แก้ไขรีบใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มรีบจิ้มตอนที่คารเมลยังไม่เซ็ทตัวหรือใช้ทอร์ช (blow torch) พ่นจนฟองอากาศหายไป แต่ถ้าฟองเล็กๆไม่เป็นไร

4. ก่อนอบสามารถสลับชั้นคัสตาร์ดและชั้นเค้กได้ พออบเสร็จขนมจะเรียงตัวเหมือนกันคือ คาราเมล คัสตาร์ด และชั้นเค้ก (จากล่างขึ้นบนเมื่อยังไม่กลับเค้ก) อเมซซิ่งใช่ไหมคะ ^_^ เหตุผลเพราะส่วนผสมเค้กมีฟองอากาศอยู่มากทำให้ลอยตัวบนส่วนผสมคัสตาร์ดซึ่งเป็นของเหลวและมีน้ำมากกว่า ดังนั้นไม่ว่าจะเทเค้กก่อนแล้วเทคัสตารด์ตาม หรือเทคัสตาร์ดก่อนเทเค้ก เมื่ออบเสร็จ เค้กจะลอยเหนือคัสตาร์ดเสมอ

5.ในการอบแบบรองน้ำ การรองผ้าอีกชั้นก่อนวางถาดอบขนมจะช่วยกระจายความร้อนให้สม่ำเสมอทำให้หน้าขนมเนียนเรียบ ไม่มีรอยบุ๋มจากการที่บางจุดร้อนกว่าจุดอื่น

6. เมื่ออบขนมจนสุก เช็กเค้กสุกด้วยการจิ้มไม้จิ้มฟัน พอถึงขึ้นแล้วแห้งดี ลองกดชั้นเค้กเบาๆแล้วไม่มีน้ำกระเพื่อม หมายความว่าคัสตารด์สุกแล้ว นำเค้กออกจากเตาแล้วพักไว้ จนเย็น การใช้มีดแซะจะช่วยให้เอาขนมออกจากพิมพ์ง่ายกว่าโดยที่ชั้นคัสตาร์ดไม่เละหรือฉีก แต่ควรแซะให้ชิดขอบพิมพ์จริงๆ ไม่งั้นขอบคัสตาร์ดอาจะแหว่งได้นะคะ

7. พักขนมจนเย็นหรือแช่เย็นก่อนตัดสัก 2 ชัวโมงเพื่อให้ชั้นคัสตาร์ดเซ็ทตัวจะได้ชิ้นขนมที่สวยงามกว่าตัดตอนร้อนๆหรือถ้าจะให้อร่อยแช่ขนมในพิมพ์ค้างคืนเพื่อให้คาราเมลซึมเข้าไปในคัสตาร์ด ทำให้ได้รสชาติอร่อยมากขึ้น

8. น้ำคาราเมลที่ไหลออกมาจากขนมตอนคว่ำหน้าจะปล่อยให้ซึมเข้าเนื้อขนมเค้ก (ขนมจะได้ฉ่ำๆ)หรือใครไม่ชอบจะตักออกบ้างก็ได้ค่ะ

9. ENJOY!

 

***สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความใดๆไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากคุณคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์กรุณากดปุ่ม share ท้ายบล็อกหรือ redirect link มาที่เพจนี้***
 

 


20240413_143303.jpg
Neung (Malee's mom)
A radiologist & a passionate and obscessive homebaker.
Related Content
มะพร้าวเผือกใบเตยมู้สเค้ก
มะพร้าวเผือกใบเตยมู้สเค้ก เค้กแนวฟิวชันที่หอม นุ่ม เบา ละลายในปากด้วย 3 layers ที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มสามแบบที่แตกต่างแต่ลงตัวและอร่อย
Fluffy and Airy Burnt cheesecake
ชีสเค้กหน้าไหม้เวอร์ชันเนื้อนุ่มเบาคล้ายปุยนุ่น ละลายในปาก แต่รสชาติเข้มข้น และยังคงกลิ่มหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชีสเค้กหน้าไหม้
Basque Burnt Cheesecake
ชีสเค้กหน้าไหม้ หรือ burnt cheesecake กำลังกลับมาเป็นแระแส ชีสเค้กที่หน้าสีเข้ม กลิ่นหอมจัด เนื้อขนมครีมมีตงกลางเยิ้มฉ่ำ เป็นขนมที่ทำไม่ยาก
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare